เหนือหุบเขาเหนือเมฆหมอกเหนือระลอกคลื่น
หลายวันคืนหลายวันคืนกลืนพสุธา เหนือตะวันเหนือสุริยันเหนือจันทรา หลายเวลาหลายธาราไม่พาคืน เจ้าอยู่แห่งหนไหนเจ้าจะไปยังที่ใค ในเมื่อหัวใจภายในไม่อาจตื่น ในเมื่อไม่อาจหลุดพ้นทุกวันคืน ข้าจะหยิบยืนเส้นทางผ่านกาลให้ไป... เสียงเพลงดังก้องแว่วจาง นัยน์ตาสีเหลืองอําพันของมันจ้องตรงเข้ามา เจ้าแมวสีดําหันหลังพร้อมมุมปากของมันที่ยกยิ้มขึ้นทุกครั้ง ที่มันทําอะไรให้ชายหนุ่มเสมอ ทาร์ลตะกายลุกขึ้นมา “เจ้าจะไปไหน เจ้าแมวดํา " คําร้องพร้อมรอยหยาดเลือดที่หยดหลั่งรินอาบเสื้อผ้า ปลายขาแข็งชาลุกขึ้นไล่ตามออกไปยังนอก ปราสาทสีหม่นนํารอยยิ้มไม่มีวันเลือนหายไปกับใบหน้าที่ฉีกคร่า หนังขาดและเลือดสาดหลังริน...
ไปตามทางเดินที่มืดมิดโดยมีแมวสีดํานําทาง... และไม่มีผู้ใดได้พบเห็นทาร์ลอีกเลย
ริมฝีปากของอซารัสยกยิ้มอย่างพึงใจ จนลืมไปว่าตนไม่ได้อ่าน นิทานในมือด้วยดิกชันนารีหรือแปลออกมาในสมุดจดที่วางปิดอยู่บนพื้นตรงหน้าอีกต่อไป ตนแปลเรื่องนี้ค้างไว้เพียงแค่จบทํานองเพลงในครั้งแรกและหยุดเขียนไปแค่นั้น ที่เหลือเหมือนกับความรู้สึกทั้งหลาย หลังไหลผ่านเข้ามาในหัวสมองเอง แต่นั่นมันไม่สําคัญเลย สําคัญที่ว่าตนกลับชอบ... ชอบนิทานเก่าขาดในมือนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
พลันความมืดก็ตรงเข้าครอบงําทั่วรถจักร ไร้ซึ่งแสงไฟเล็ดลอดผ่าน
ประสาทการรับรู้ของอซารัสกลับมาสู่โลกความเป็นจริงเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดของเด็กจํานวนมากในโบกี้ มองอะไรไม่เห็นรู้เพียงแค่ว่าบัดนี้รถไฟขบวนน้อยคงลอดผ่านสู่
อุโมงค์ขุนตาล...
และปลายทางคือแสงสว่างเจิดจ้า เสียงร้องเฮฮายังคงดังแต่ เหมือนมันแววจางห่างออกไปทุกที อซารัสเงยหน้าขึ้นในความมืด แม้จะยังไม่เข้าราตรีกาล แสงสว่างเลือนรางสาดเข้ามาก่อนที่มันจะ ดับวูบลงอีกครั้ง