วิทยาลัยดนตรี มหาวิทยาลัยรังสิต
College of Music, Rangsit University
เสียงสะท้อนของความคลุมเครือ
2553
-
The Echo of Vague
2010
จากการดําเนินชีวิตประจําวันที่มีทั้งความวุ่นวาย ซับซ้อน หรือบางทีก็เรียบง่าย ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปและเราย้อนกลับไปมอง เราก็จะได้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ซึ่งตรงกับ form ของเพลงที่เมื่อจบก่อน C แล้วทุกอย่างก็จะถูก Invert เพื่อให้ได้ความรู้สึกใหม่แต่โครงสร้างยังเหมือนเดิม
Some days, we may have a very hectic lite, but at other times, we may live a simple lite. Yet when looking back at our life in those days gone by, we may have different feeling. This is like the form of this piece of music in which everything will be inverted upon the finish of section C to achieve a new feeling while the structure remains unchanged.
ในบทประพันธ์ชิ้นนี้ ถูกแต่งขึ้นโดยใช้พื้นฐานของ คอร์ดเมเจอร์ 7, 11. 13 ที่นํามาใช้ในจุดต่างๆ ของเพลง โดยมีการพลิกกลับหรือตัดโน้ตออกเพื่อสร้างสีสันและเสียง Dissonance รูปแบบการประพันธ์เป็น A B A' C B' A” โดยที่ B' และ A" จะมีการทํา Inversion ในโน้ตทุกตัว โดยใช้แกนเป็นโน้ต B ทําให้ได้โครงสร้างของ Chord ใหม่ทั้งหมดแต่ได้ Texture ที่เหมือนเดิม
The Piece was composed, using elements of major 7th ,11th and 13th chords in different places with an inversion and or cutting off of some notes to create colors and dissonances. The form of this piece is A B A' C B' A". In B' and A", there will be an inversion in every note with the note B as a center to obtain a new structure of the chords but with the same texture.